ไบรท์ตัน 0-4 แมนซิตี้ : ประเด็นหลังเกมพรีเมียร์ลีก เรือใบสีฟ้า บุกถล่มพร้อมไล่จี้จ่าฝูงเหลือแต้มเดียว

By Asree Samuyae


แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ไม่มีสะดุดเป็นฝ่ายบุกถล่มเอาชนะ ไบรท์ตัน แอนด์ โฮฟ อัลเบี้ยน ไปแบบขาดลอย 4-0 ทำให้ขยับขึ้นตำแหน่งรองจ่าฝูง พรีเมียร์ลีก โดยที่เตะน้อยกว่าจ่าฝูงอยู่ด้วย

เป๊ป กวาร์ดิโอล่า นำทัพ "เรือใบสีฟ้า" บุกถล่ม ไบรท์ตัน ถึงถิ่นเอเม็กซ์ สเตเดี้ยม เมื่อคืนที่ผ่านมา โดยได้ประตูจาก เควิน เดอ บรอยน์ นาที 17, ฟิล โฟเด้น นาที 26 กับ 34 และ ฮูเลี่ยน อัลวาเรซ นาที 62

จบเกมนี้ แมนซิตี้ มีเพิ่ม 76 คะแนนจากการแข่ง 33 นัด ขยับแซง ลิเวอร์พูล ขึ้นมาอยู่อันดับ 2 ของตาราง มีแต้มตามหลัง อาร์เซนอล เพียงแต้มเดียวเท่านั้น


แมนซิตี้ ฟอร์มดีต่อเนื่องในลีก

Brighton & Hove Albion v Manchester City - Premier League | Mike Hewitt/GettyImages

แม้ว่า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ อาจต้องอกหักในแชมเปี้ยนส์ลีกจากการแพ้ เรอัล มาดริด อดป้องกันแชมป์ แต่พวกเขายังคงมีผลงานที่แข็งแกร่งในพรีเมียร์ลีก

"เรือใบสีฟ้า" ยังมีเกมในมือเหนือคู่แข่งอย่าง อาร์เซนอล 1 นัด และรู้ว่าพวกเขามีโอกาสมากขึ้นเรื่อย ๆ ที่จะคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกสมัยที่ 4 ติดต่อกันในฤดูกาลนี้

การเอาชนะ เชลซี จนผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ ศึกเอฟเอ คัพ เมื่อสุดสัปดาห์ที่แล้ว ทำให้ลูกทีมของ กวาร์ดิโอล่า ไม่แพ้ในบ้านเลยแม้แต่ครั้งเดียวในทุกรายการนับตั้งแต่ต้นเดือนธันวาคม

การจบสกอร์ก็เป็นอีกหนึ่งจุดแข็งของพวกเขานับตั้งแต่เริ่มศักราชใหม่ โดยตอนนี้ แมนฯซิตี้ ทำไปแล้วถึง 17 ประตูจากการลงเล่น 4 นัดหลังสุดในพรีเมียร์ลีก


โฟเด้น ตัวเต็งนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปี

Brighton & Hove Albion v Manchester City - Premier League | Mike Hewitt/GettyImages

ในขณะที่ เออร์ลิ่ง ฮาแลนด์ เป็นตัวเต็งที่จะคว้ารางวัลรองเท้าทองคำพรีเมียร์ลีกอีกครั้งในฤดูกาลนี้ แต่ ฟิล โฟเด้น ก็มีบทบาทสำคัญในการช่วยให้ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ โลดแล่นในขณะนี้

เป็นอีกครั้งที่ดาวเตะวัย 23 ปี โชว์ฟอร์มโดดเด่น เขาสร้างความปั่นป่วนให้กับแนวรับของ ไบรท์ตัน จนสามารถเหมาสองประตูในเกมนี้ ทำให้ โฟเด้น ยิงไปแล้ว 16 ประตูในพรีเมียร์ลีกซีซั่นนี้ รวมถึงมีส่วนร่วมกับประตูโดยตรงอีก 34 ลูกรวมทุกรายการอีกด้วย

เป็นเรื่องที่ไม่น่าแปลกใจเลยหากว่า โฟเด้น จะมีบทบาทสำคัญให้กับทีมชาติอังกฤษของ แกเร็ธ เซาธ์เกต ในศึกยูโร 2024 ที่เยอรมนี แต่ที่ยิ่งกว่านั้นคือเขาควรเป็นชื่อแรก ๆ ที่จะคว้ารางวัลผู้เล่นยอดเยี่ยมแห่งปีของพีเอฟเอไปครอง ไม่ว่าสโมสรจะได้แชมป์พรีเมียร์ลีกในตอนท้ายหรือไม่ก็ตาม


การตัดสินที่น่ากังขาของ ยิลเลตต์

Chelsea FC v Manchester United - Premier League | Visionhaus/GettyImages

ผู้ตัดสินหลักในสนามเกมนี้คือ จาร์เรด ยิลเลตต์ ซึ่งเปาชาวออสเตรเลียโดนวิจารณ์จากการตัดสินที่น่ากังขาหลายครั้งในซีซั่นนี้

ครั้งนี้เขามีจังหวะกังขาอีกครั้งเมื่อเขาให้ แมนซิตี้ ได้ฟรีคิกในตำแหน่งอันตราย แม้ว่า ฟิล โฟเด้น ดูเหมือนจะไม่โดนทำฟาวล์ก็ตาม ยิ่งไปกว่านั้นเขาทำให้แฟนบอลไบรท์ตันไม่พอใจอย่างหนักจากจังหวะที่ เจา เปโดร โดน ยอสโก้ กวาร์ดิโอล เข้าสะกิดจนล้มในเขตโทษแต่กลับไม่ได้จุดโทษ

ที่น่าขมวดคิ้วอีกก็คือ ยิลเล็ต ที่เชื่อว่าเป็นแฟนบอลลิเวอร์พูล ยังได้รับหน้าที่เป็นผู้คุมห้อง VAR ในเกมนอร์ธ ลอนดอน ดาร์บี้ อีกด้วย ทั้งที่เขาเชียร์สโมสรคู่แข่งลุ้นแชมป์

การตัดสินของกรรมการพรีเมียร์ลีกในฤดูกาลนี้โดนหลายฝ่ายวิจารณ์อย่างมาก เนื่องจากขาดความคงเส้นคงวา


เด แซร์บี้ ทองลอก?

Brighton & Hove Albion v Manchester City - Premier League | Mike Hewitt/GettyImages

โรแบร์โต้ เด แซร์บี้ ตกเป็นข่าวเชื่อมโยงรับงานกุนซือของ ลิเวอร์พูล แทนที่ เยอร์เก้น คล็อปป์ ขณะเดียวกัน เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ก็ชื่นชมเทรนเนอร์ชาวอิตาเลียน ท่ามกลางความเป็นไปได้ที่จะเข้าทดแทนเขาในอนาคต

เด แซร์บี้ ทำผลงานอย่างยอดเยี่ยมกับ ไบรท์ตัน โดยเฉพาะปีแรกที่พาสโมสรไปเล่นฟุตบอลยุโรปเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์จากการจบอันดับที่ 6 ในลีก อย่างไรก็ตามผลงานของพวกเขาก็ย่ำแย่ลงเรื่อย ๆ ปัจจุบันรั้งที่ 11 ของตาราง

เทรนเนอร์วัย 44 ปีโดนวิจารณ์เรื่องความยืดหยุ่นในแท็คติก ความปราชัยแบบขาดลอยต่อ ฟูแล่ม, อาร์เซนอล และล่าสุด แมนซิตี้ ทำให้เกิดคำถามมากมายว่า เด แซร์บี้ มีความสามารถในการคุมสโมสรระดับท็อปหรือไม่


ต้นฉบับของบทความนี้เผยแพร่ภายใต้ 90min.com/TH ที่ชื่อ ไบรท์ตัน 0-4 แมนซิตี้ : ประเด็นหลังเกมพรีเมียร์ลีก เรือใบสีฟ้า บุกถล่มพร้อมไล่จี้จ่าฝูงเหลือแต้มเดียว.