ชัยชนะอันสวยหรูที่มาช้าไป กับโอกาสลุ้นแชมป์ 2 นัดสุดท้ายในฤดูกาลนี้ของ ลิเวอร์พูล - FEATURE

By Navapun Munarsa

ลิเวอร์พูล สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ภายใต้การนำของ เยอร์เก้น คล็อปป์ โค้ชชาวเยอรมัน กลับมาทำผลงานได้น่าประทับใจอีกครั้ง หลังเปิด แอนฟิลด์ ไล่อัด ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ 4-2 พร้อมกลับยืดโอกาสลุ้นแชมป์ในทางทฤษฎีต่อไป

ในเกมนี้ นักเตะ ลิเวอร์พูล แสดงถึงความกระหาย และเล่นฟุตบอลด้วยความมั่นใจอีกครั้ง หลังจากในช่วง 1-2 เดือนที่ผ่านมา พลพรรค “หงส์แดง” ฟอร์มหลุดอย่างไม่น่าเชื่อ ซึ่งทำให้พวกเขาพลาดลุ้นแชมป์สำคัญไปหลายรายการ

Liverpool FC v Tottenham Hotspur - Premier League | Stu Forster/GettyImages

ในช่วงเริ่มเกม ดูเหมือนว่า นักเตะ ลิเวอร์พูล ยังเครื่องติดช้า และตั้งสติกันไม่ได้ หลังจากโดนฝั่ง สเปอร์ส ครองบอลบุกได้มากกว่า แต่โชคดีที่ผู้มาเยือนยังต่อเกมรุกไม่ติด และไม่สามารถสร้างความอันตรายให้แนวรับของ “หงส์แดง” ได้

หลังจากตั้งหลักได้ ลูกทีมของ คล็อปป์ เริ่มกลับมาอยู่ในเกมของตัวเองอีกครั้ง และเปิดฉากเล่นเกมรุกจน สเปอร์ส ต้องถอยลงไปรับในแดนตัวเอง ก่อนจะประตูขึ้นนำจากลูกโหม่งของ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ และ แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน ที่ตามซ้ำแบบจ่อๆทำให้หนีห่าง 2 ประตู ก่อนจบครึ่งแรก

การกลับมาออกสตาร์ทเป็น 11 คนแรกของ ซาลาห์ ถือว่ามีส่วนสำคัญที่ทำให้ ลิเวอร์พูล คว้า 3 คะแนนสำเร็จ โดยดาวเตะวัย 31 ปี แสดงให้เห็นว่า เขาเป็นนักเตะระดับโลก และเป็นทุกสิ่งทุกอย่างในเกมรุกของทีมอย่างแท้จริง

ขณะเดียวกัน บรรดาผู้เล่นสายเลือดใหม่อย่าง จาเรลล์ ควานซาห์ กองหลังวัย 21 ปี และ ฮาร์วีย์ เอลเลียตต์ กองกลางดาวรุ่ง ต่างก็ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม และโดยเฉพาะรายหลังที่ทำไป 1 ประตูสุดสวย กับ 1 แอสซิสต์

Liverpool FC v Arsenal FC - Premier League | Michael Regan/GettyImages

อย่างไรก็ตาม ปัญหาที่ชัดเจนของ ลิเวอร์พูล ที่ทำให้พวกเขาหมดลุ้นแชมป์รายการสำคัญท้ายซีซัน มันคือเรื่องความคงเส้นคงวา และอย่างที่ คล็อปป์ เคยอธิบายไว้ว่า “หงส์แดง” เวอร์ชั่น 2.0 ยังคงต้องปรับปรุง และพัฒนาต่อไปภายใต้การดูแลของทีมสตาฟฟ์ชุดใหม่

นักเตะแกนหลักส่วนใหญ่ชุดปัจจุบันอย่าง เอลเลียตต์, โคดี กัคโป, ดาร์วิน นูนเญซ, อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์, ไรอัน กราเฟนแบร์ช, เคอร์ติส โจนส์, เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, อิบราฮิมา โกนาเต้ และ ควานซาห์ ก็ยังไม่มีใครอายุเกิน 25 ปี ซึ่งน่าสนใจว่า โค้ชคนใหม่เขาจะปรับแต่ง ลิเวอร์พูล เวอร์ชั่น 2.0 ออกมาได้ดีเพียงใด

ในทางทฤษฎีแล้ว ลิเวอร์พูล ยังสามารถคว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก ได้ โดยเหลือการแข่งขันอีกสองนัดสุดท้ายของซีซัน แต่ในความเป็นจริงมันยากมาก ๆ ที่ อาร์เซนอล หรือ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ จะแพ้รวดกับเกมในมือที่เหลือ

ขณะเดียวกัน หากมองถึงเกมที่ ลิเวอร์พูล แพ้ให้กับ คริสตัล พาเลซ รวมถึง เอฟเวอร์ตัน ก็คงเป็นเรื่องที่น่าเสียดายอย่างยิ่ง ซึ่งหากพวกเขาเก็บได้ 6 คะแนนเต็มได้ ก็จะทำให้ทีมของ คล็อปป์ ไปยืนเป็นจ่าฝูง และคงยังได้ลุ้นต่อยอดความสำเร็จไปจนถึงเกมสุดท้ายของฤดูกาล


ต้นฉบับของบทความนี้เผยแพร่ภายใต้ 90min.com/TH ที่ชื่อ ชัยชนะอันสวยหรูที่มาช้าไป กับโอกาสลุ้นแชมป์ 2 นัดสุดท้ายในฤดูกาลนี้ของ ลิเวอร์พูล - FEATURE.